Shell ยอมรับว่าผ่านจุดสูงสุดของน้ำมันมาแล้ว

Shell ยอมรับว่าผ่านจุดสูงสุดของน้ำมันมาแล้ว และมองว่าคาร์บอนชดเชยเป็นโอกาสทางธุรกิจ

Shell ยอมรับว่าผ่านจุดสูงสุดของน้ำมันมาแล้ว และมองว่าคาร์บอนชดเชยเป็นโอกาสทางธุรกิจ Royal Dutch Shell กล่าวว่าน้ำมันผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว ในการแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี บริษัทกล่าวว่า “การผลิตน้ำมันถึงจุดสูงสุดในปี 2019” และคาดว่าจะลดลงปีละ 1% ถึง 2% ต่อปี นั่นคือสิ่งที่ Shell คาดการณ์ไว้มาระยะหนึ่งแล้ว และหวังว่าการรวมกันของธุรกิจใหม่ ๆ จะป้องกันไม่ให้กลายเป็นไดโนเสาร์ ซึ่งฟอสซิลกลายเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตภัณฑ์หลัก

การประกาศดังกล่าว เป็นไปตามความคาดหวังของ Shell เกือบห้าปีที่แล้ว ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการน้ำมันสูงสุดในปี 2020 ในเวลานั้น นักวิเคราะห์ต่างส่งเสียงเตือนว่า EV เป็นภัยคุกคามต่อบริษัทน้ำมัน

จนถึงขณะนี้ บริษัทน้ำมันได้ก้าวขึ้นสู่การกระจายความเสี่ยง และกลายเป็น “ผู้ให้บริการพลังงาน” แทน โดยใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น ฟาร์มกังหันลม แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่า กลยุทธ์จะพัฒนาไปอย่างไร เมื่อธุรกิจน้ำมันเบนซิน เริ่มถดถอยลงอย่างแท้จริง

ในเดือนกันยายนปี 2020 Shell ยังได้เข้าร่วมกับ BP ยักษ์ใหญ่ด้านน้ำมัน ในการให้คำมั่นว่า จะปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2050 แต่แผนของ Shell ซึ่งพึ่งพาเชื้อเพลิงชีวภาพ และก๊าซธรรมชาติเหลว เป็นความพยายามที่ค่อนข้างอ่อนแอ ในการลดการปล่อยก๊าซ Gizmodo กล่าว

Shell ยอมรับว่าผ่านจุดสูงสุดของน้ำมันมาแล้ว และมองว่าคาร์บอนชดเชยเป็นโอกาสทางธุรกิจ
Shell ยอมรับว่าผ่านจุดสูงสุดของน้ำมันมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม หนทางอื่นที่ Shell กำลังดำเนินการ ทั้งเพื่อลดการปล่อยก๊าซ และสร้างรายได้คือ การทำความกำจัดมลพิษที่เกิดขึ้นแล้ว ในการเปิดตัว Shell กล่าวว่า มีแผนที่จะเพิ่มการใช้ระบบดักจับคาร์บอน และการชดเชยคาร์บอน เช่น โครงการป่าไม้ มีเป้าหมายที่จะขายบริการดักจับคาร์บอนให้กับบริษัทอื่น ๆ ในที่สุด

การดักจับคาร์บอนถูกมองว่า เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา เพื่อบรรลุเป้าหมายของ Paris Climate Accord มากขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายทำให้ไม่สามารถใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ ตามรายงานของ Reuters การชดเชยคาร์บอน ซึ่งหลายธุรกิจวางแผนที่จะใช้ เพื่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเป็นศูนย์ ยังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นข้ออ้างในการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลได้อย่างต่อเนื่อง ในแถลงการณ์ของสำนักข่าว Reuters Greenpeace เรียกแผนของ Shell ว่า “ความเชื่อมั่นที่ลวงตา ด้วยการการปลูกต้น”

Shell ยังได้ดำเนินการ เพื่อแตกไปสู่ธุรกิจการชาร์จ EV มีการติดตั้งสถานีชาร์จที่ปั๊มน้ำมันบางแห่ง และในปี 2019 ได้ซื้อเครือข่ายการชาร์จ Greenlots และเมื่อเดือนที่แล้ว Shell ประกาศว่าจะซื้อ Ubitricity ซึ่งเป็นเครือข่ายการชาร์จอีกเครือข่ายหนึ่ง ที่มีความเชี่ยวชาญในการชาร์จพลังงานริมถนน


Ref:
https://www.greencarreports.com/news/1131263_shell-admits-it-s-past-peak-oil-eyes-carbon-offsets-as-a-business-opportunity