FutureBridge คาดต้นทุนแบตเตอรี่ Solid-State จะเท่า Lithium-Ion ใน 2025 แม้ว่าจะมี EV ที่มีระยะขับที่เพียงพอ โดยใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium-Ion) ในปัจจุบัน และอุปสรรคหลักที่ทำให้การเปลี่ยนมาใช้ EV คือโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จที่ไม่แน่นอน แต่เรายังคงรอคอยการมาถึง ของแบตเตอรี่ Solid-State (SSB) อย่างใจจดใจจ่อ เทคโนโลยีนั้นมีอยู่แล้ว และใช้งานได้จริง แต่สิ่งที่ทำให้ SSB ไม่เป็นกระแสหลัก คือ ต้นทุนในการผลิต
ตามที่ FutureBridge (บริษัทวิเคราะห์ตลาดของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเชี่ยวชาญในการติดตาม และให้คำปรึกษาแก่องค์กรต่าง ๆ เกี่ยวกับอนาคตของอุตสาหกรรมตาม เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ) SSB มีต้นทุนที่เท่าเทียมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ภายในปี 2025 นั่นไม่ได้หมายความว่า ว่าในปี 2025 เราจะได้เห็นการใช้งานเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Solid-State เชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก แต่จะเป็นก้าวสำคัญสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ไม่เพียงแต่ช่วยให้ชาร์จได้เร็วขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่อีกด้วย ทั้งยังมีความปลอดภัยที่เหนือกว่า ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
การคาดการณ์คือ ภายในปี 2030 เราจะเริ่มเห็นการจำหน่ายเชิงพานิชย์ของยานพาหนะที่ติดตั้ง SSB จำนวนมาก แม้ว่ามันอาจจะเกิดขึ้นเร็วกว่านั้นก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น Toyota (ร่วมกับ Panasonic) ได้ประกาศความตั้งใจ ที่จะเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรก ที่ขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ติดตั้ง SSB โดยสัญญาว่า จะมีระยะขับขี่ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งที่ 500 กม. และเวลาในการชาร์จจาก 0 ถึงเต็มเพียง 10 นาที นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า จะมีต้นแบบที่ใช้งานได้ในปี 2021 แต่ไม่ได้ระบุกรอบเวลาที่ชัดเจน ว่าจะสามารถวางจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ ได้เมื่อใด
หากการวิจัยเกี่ยวกับ SSB ขยายวงกว้างขึ้น เราไม่พบเหตุผลว่าทำไมการคาดการณ์นี้จึงไม่เป็นจริง ในความเป็นจริง Toyota ต้องการขาย EV ที่ติดตั้ง SSB คันแรก ภายในสองหรือสามปีข้างหน้า ในขณะที่ Volkswagen ได้ประกาศความตั้งใจที่จะสร้างชุด SSB ของตัวเองภายในปี 2025 และ Nissan ก็อยู่ในขบวน SSB ด้วยโดยมีแผนจะมีรถต้นแบบ เริ่มใช้งานได้ภายในปี 2028
หนึ่งในหัวข้อถกเถียง ที่ร้อนแรงที่สุดในหมู่ผู้สนใจรัก EV คือ ความจุของแบตเตอรี่ที่ลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะพบในชุดลิเธียมไอออน เมื่อเวลาผ่านไป และเนื่องจากชุดแบตเตอรี่มีราคาแพงมาก จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะรักษาให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้นานที่สุด Toyota กล่าวว่าตั้งเป้าให้ SSB มีอายุการใช้งาน 30 ปี ซึ่งหมายความว่า จะยังคงรักษาความจุเดิมไว้ได้ 90 เปอร์เซ็นต์ หลังจากใช้งานตามปกติมาสามทศวรรษ
FutureBridge ชี้ให้เห็นว่า การวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Solid-State กำลังเร่งตัวขึ้น เนื่องจาก บริษัทต่าง ๆ เข้าร่วมการแข่งขันนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ
การวิเคราะห์ภูมิทัศน์สิทธิบัตรปี 2020 ใน SSB ระบุว่า มีการยื่นจดสิทธิบัตร 426 ฉบับ จีนและสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ยี่นจดสิทธิบัตรสูงสุดถึง 21% ของการยื่นฟ้องทั้งหมด ตามมาด้วยญี่ปุ่นที่มีการยื่นฟ้อง 18% Toyota, Panasonic, Nippon, Hyundai, Murata Manufacturing และ LG Chem เป็นหนึ่งในผู้นำในการจดสิทธิบัตร ผู้ผลิตรถยนต์ที่จดสิทธิบัตร SSB คิดเป็น 28% นำโดย Toyota และตามด้วย Hyundai และ Honda 72% ที่เหลือของการยื่นจดสิทธิบัตร มาจากผู้เล่นที่หลากหลาย เช่น ผู้ผลิตแบตเตอรี่ ซัพพลายเออร์ยานยนต์ บริษัทเคมีภัณฑ์ และสถาบันการศึกษา
ย้อนกลับไปในปี 2010 ค่าใช้จ่ายต่อแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 1 kWh อยู่ที่กว่า 1,000 ดอลลาร์ และในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา มันลดลงเกือบสิบเท่า มีการคาดการณ์ว่า ต้นทุนของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน จะลดลงอย่างต่อเนื่อง และภายในปี 2030 ราคาเฉลี่ยต่อ 1 kWh จะลดลงต่ำกว่า 60 ดอลลาร์ ในปัจจุบัน ดูเหมือนว่า ไม่น่าเป็นไปได้ที่ SSB จะลดต้นทุนลงอย่างมากในตอนนั้น แต่ด้วยจำนวนบริษัทที่ทำงานอย่างแข็งขัน ซึ่งจะช่วยทลายกำแพงนี้ได้ โดยไม่ต้องสงสัย
Ref:
https://insideevs.com/news/491713/solid-state-batteries-here-in-2030/