NTSB เตือน หน่วยกู้ภัยฉุกเฉินต้องฝึกอบรมเพิ่มเติม เกี่ยวกับไฟไหม้รถ EV

NTSB เตือน หน่วยกู้ภัยฉุกเฉินต้องฝึกอบรมเพิ่มเติม เกี่ยวกับไฟไหม้รถ EV

NTSB เตือน หน่วยกู้ภัยฉุกเฉินต้องฝึกอบรมเพิ่มเติม เกี่ยวกับไฟไหม้รถ EV หน่วยกู้ภัยฉุกเฉินต้องการการฝึกอบรมเพิ่มเติม เพื่อจัดการกับความเสี่ยงจากไฟไหม้ที่อาจเกิดขึ้นจากรถยนต์ไฟฟ้าที่ชน คณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติ (National Transportation Safety Board – NTSB) กล่าวในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ

รถยนต์ EV หรือรถยนต์ไฟฟ้าอาจปลอดภัยกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในเรื่องความเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ แต่หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้วกลับเป็นเรื่องยากที่จะจัดการ ในการชนด้วยความเร็วสูงที่ มีแรงกระแทกสูง เซลล์แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมีแนวโน้มที่จะได้รับความเสียหายที่ก่อให้เกิดไฟไหม้ และมักติดไฟขึ้นใหม่ NTSB กล่าวในการแถลงข่าวที่มาพร้อมกับรายงาน

NTSB เตือน หน่วยกู้ภัยฉุกเฉินต้องฝึกอบรมเพิ่มเติม เกี่ยวกับไฟไหม้รถ EV

อย่างไรก็ตาม การวิจัย มาตรฐานความปลอดภัย และคู่มือการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินของผู้ผลิต (Emergency Response Guides – ERG) ไม่สามารถช่วยได้ เพราะขาดข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการดับไฟเหล่านี้ โดยไม่ได้ระบุวิธีจัดการกับไฟไหม้รถยนต์ EV หรือแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนอย่างถูกต้องในสถานการณ์ที่จำเป็นอย่างเพียงพอ หน่วยงานกล่าวเพิ่มเติมว่า หน่วยกู้ภัยยังเสี่ยงต่อไฟฟ้าช็อตจากสายไฟฟ้าแรงสูง

NTSB จัดทำคำแนะนำหลายชุดเพื่อแก้ไขปัญหานี้ รวมถึงคู่มือการตอบสนองมาตรฐานต่อเหตุฉุกเฉินของผู้ผลิตรถยนต์ ตามองค์การมาตรฐานสากล (International Standards Organization – ISO) 17840 และแนวปฏิบัติที่แนะนำของ SAE International J2990 คำแนะนำเหล่านี้อาจถูกนำมาพิจารณาในการจัดอันดับความปลอดภัยของโปรแกรมการประเมินรถยนต์ใหม่ของรัฐบาลกลาง (New Car Assessment Program – NCAP) ได้อีกด้วย

NCAP (ซึ่งประกอบด้วยคะแนนการทดสอบการชนเป็นหลัก) และกฎระเบียบด้านความปลอดภัย อยู่ภายใต้การดูแลของ National Highway Traffic Safety Administration (NHTSA) ที่แยกออกมาอีกหน่วยงานหนึ่ง NTSB จึงตรวจสอบปัญหาด้านความปลอดภัยในการขนส่งและให้คำแนะนำได้เท่านั้น ไม่มีอำนาจในการกำหนดกฎเกณฑ์

รายงาน NTSB ยังแนะนำให้มีการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการลดพลังงานของชุดแบตเตอรี่ที่เสียหาย หรือลดความเป็นไปได้ของการระบายความร้อน ซึ่งอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ หลายปีก่อน NHTSA ได้พิจารณาแนวคิดในการ “ระบาย” แบตเตอรี่ EV ของอิเล็กโทรไลต์ เพื่อหยุดปฏิกิริยาใดๆที่เกิดจากการชนกัน แต่แนวคิดนี้ถูกยกเลิกเนื่องจากต้องใช้ความรู้เฉพาะทางมากเกินไปในรถยนต์แต่ละรุ่น

อย่างไรก็ตาม ตามที่ระบุไว้ในรายงาน NTSB หน่วยกู้ภัยอาจไม่คุ้นเคยกับ EVs เหมือนที่คุ้นเคยรถยนต์เบนซิน เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป นั่นคือสาเหตุที่รายงานการเกิดไฟไหม้ EV มักจะได้รับความสนใจ

รายงานของ NTSB มาจากตรวจสอบและวิเคราะห์การการเกิดเพลิงไหม้ใน Tesla Model X, Tesla Model S, Chevrolet Volt, BMW i3, Mitsubishi Outlander PHEV และ BMW i8 นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงข้อกำหนดทางกฎหมายที่รถยนต์ไฟฟ้าต้องต้องทำตาม และ ERG ที่ต้องเป็นไปตาม ISO 17840 คำถามคือถ้าผู้ผลิตทำเช่นนั้นหรือไม่

เพื่อตอบคำถามนั้นและประเด็นอื่นๆที่เกี่ยวข้อง NTSB ได้วิเคราะห์ ERG จากยานพาหนะ 36 คัน สรุปว่ามีเพียง 2 คันใน 36 คันเท่านั้น ที่มีคำแนะนำเฉพาะสำหรับการเหตุเพลิงไหม้ในชุดแบตเตอรี่ หรือแบตเตอรี่แรงดันสูง คือ Mitsubishi Outlander PHEV ปี 2018 และ Proterra Catalyst E2 EV Bus

ที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้น ไม่มีรถคันใดใน 36 ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับการบรรเทาความเสี่ยงของพลังงานที่หลงเหลืออยู่ ซึ่งทำให้อาจเกิดการประทุขึ้นใหม่ หลายคันยังขาดข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการกับยานพาหนะที่จมอยู่ใต้น้ำ การกู้คืนภายหลังจากเกิดเหตุ หรือการลากจูง EV ที่เสียหาย และการจัดเก็บรถยนต์ไฟฟ้าที่เสียหาย

ไม่เพียงเพื่อความปลอดภัยสำหรับหน่วยกู้ภัยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้โดยสารและผู้คนที่อยู่ใกล้เคียง คำแนะนำของ NTSB ดูเหมือนจะเป็นคำแนะนำที่ต้องใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อย เพื่อผลประโยชน์มหาศาล การจัดทำ ERG ที่ครบถ้วน อาจง่ายกว่าการอัปเดตซอฟแวร์รถยนต์เสียอีก

ปีที่ผ่านมา เกี่ยวกับไฟไหม้รถ EV ได้รับความสนใจมากขึ้น เนื่องจากเหตุการณ์ซึ่งเป็นที่รู้จักเกี่ยวข้องกับ Chevrolet Bolt EV, Hyundai Kona Electric และ Tesla Model S และ Model X แม้ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการชาร์จไฟ ไม่ใช่การชนก็ตาม


Ref:
https://www.greencarreports.com/news/1130927_emergency-responders-need-more-training-on-ev-fires-ntsb-warns
https://insideevs.com/news/466271/ntsb-urges-ev-emergency-response-guides-correction/