Recurrent มุ่งหมายรายงานความสมบูรณ์ของแบตเตอรี่ รายงานประวัติรถของ Carfax มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปิดเผยข้อบกพร่องที่ซ่อนอยู่ในรถยนต์มือสอง เช่น ความเสียหายจากการชน Recurrent สตาร์ทอัพในซีแอตเทิลมีแผนที่จะให้บริการที่คล้ายกัน โดยมุ่งเน้นที่ความสมบูรณ์ของแบตเตอรี่ EV โดยเฉพาะ
“ความสมบูรณ์ของแบตเตอรี่เป็นมาตรวัดระยะขับขี่ตัวใหม่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า และเรากำลังนำเสนอความโปร่งใส” Scott Case ซีอีโอ Recurrent กล่าว
Recurrent ที่เป็น Startup ที่เพิ่งเสร็จสิ้นการระดมทุน 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐ กล่าวในเดือนกันยายนว่า บริษัทมีแผนจะเสนอรายงานสภาพแบตเตอรี่ รวมถึงคาดการอายุการใช้งานแบตเตอรี่นั้น ในการออกรายงานจะต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ขับขี่รถยนต์ EV ในการให้ข้อมูลจากรถของพวกเขา ซึ่งจะถูกวิเคราะห์โดยอัลกอริทึมเพื่อการคาดการณ์การใช้งานของแบตเตอรี่ในอนาคต
Recurrent อ้างว่ามีชุดข้อมูลที่มีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะใช้ในการคาดการณ์อายุการใช้งานแบตเตอรี่ โดยได้มีการได้รวบรวมข้อมูลแล้วกว่าหนึ่งล้านชุดจากผู้ขับขี่ 2,500 คน ผู้ขับขี่ที่เข้าร่วมให้ข้อมูลจะต้องดาวน์โหลดแอปและมียานพาหนะที่รองรับ พร้อมเปิดบัญชีเพื่อให้ข้อมูล
ณ เดือนกรกฎาคม 2020 Recurrent รองรับรถ EV หลายโมเดลทั้ง Tesla Model S, Model X และ Model 3, Nissan Leaf (รุ่นปี 2016 และใหม่กว่า), BMW i3 (รุ่นปี 2017 และใหม่กว่า), BMW i8; BMW 5 Series และ 3 Series Plug-in hybrids, Ford Fusion Energi (รุ่นปี 2019 และใหม่กว่า), Chevrolet Volt, Bolt EV และ Spark EV, Volkswagen e-Golf, จากัวร์ I-Pace, Chrysler Pacifica Hybrid, และ Audi E-Tron และ A3 E-Tron
Case บอกว่า บริษัทเสนอบริการให้กับบุคคลทั่วไปโดยไม่มีค่าใช้จ่าย (นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายในการเชื่อมต่อข้อมูล) แต่สำหรับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จะต้องสมัครสมาชิกรายเดือน เพื่อได้รับรายงานของรถยนต์ EV ในที่ต้องการ
รายงานความสมบูรณ์ของแบตเตอรี่ของ Recurrent น่าจะมีประโยชน์อย่างยิ่งในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น รถยนต์ EV ที่จอดไว้ทิ้งไว้ในช่วงโควิด 19 อาจมีเลขไมล์ต่ำมาก แต่แบตเตอรี่อาจไม่ได้อยู่ในสภาพดี ซึ่งสภาพของแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับการชาร์จ การไม่ชาร์จขณะจอดรถรถทิ้งไว้เลย อาจก่อให้เกิดปัญหากับแบตเตอรี่ได้ ฮุนไดถึงกับออกเคล็ดลับเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แนะนำให้ผู้ขับขี่ชาร์จไฟบ่อยๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการปล่อยให้แบตเตอรี่ต่ำกว่า 20% ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของแบตเตอรี่
นอกจากนี้ Fast charge ก็สามารถเร่งการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ EV ได้เช่นกัน แม้ว่านักวิจัยยังคงพยายามพัฒนาอัลกอริธึมการควบคุมการชาร์จโดยไม่สร้างความสึกหรอให้กับแบตเตอรี่ก็ตาม
