การลงทุน Bitcoin ของ Tesla จะส่งผลต่อการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างไร รถยนต์ไฟฟ้า Tesla ไม่ได้ปล่อยมลพิษจาก “ท่อไอเสีย” แต่การลงทุนใหม่ของผู้ผลิตรถยนต์ อาจส่งผลเสีย ต่อการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยรวม
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Tesla ประกาศว่า บริษัทได้ซื้อ bitcoin จำนวน 1.5 พันล้านดอลลาร์ และในไม่ช้า จะยอมรับ bitcoin ในการซื้อรถยนต์ คาดว่า bitcoin จะปล่อยก๊าซคาร์บอนต่อปีมากกว่าทั้งประเทศ Reuters กล่าว
นั่นเป็นเพราะ bitcoin ถูกสร้างขึ้น จากการประมวลผลทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน บนคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพ “การขุด” bitcoin ใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมาก ซึ่งเป็นปริมาณเดียวกับที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ใช้ในปี 2019 ตามรายงานของ Reuters ซึ่งอ้างถึงข้อมูลของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ
คาดว่า การขุด Bitcoin จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ระหว่าง 22 ล้านถึง 22.9 ล้านเมตริกตันต่อปี ซึ่งใกล้เคียงกับปริมาณที่ผลิต โดยจอร์แดนและศรีลังกา อ้างถึงการศึกษาในปี 2019 ในวารสารวิทยาศาสตร์ Joule
ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ที่อาจเกิดขึ้นจากการขุด bitcoin เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ในปี 2018 คาดว่าการประมวลผล bitcoin จะใช้พลังงานไฟฟ้ามากกว่าที่ รถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla ทั้งหมดบนท้องถนนใช้ แต่ Tesla ไม่ได้เป็นผู้เดียวที่ยอมรับ cryptocurrency Karma Automotive เริ่มยอมรับ bitcoin เพื่อใช้ในการชำระเงินสำหรับปลั๊กอินไฮบริด ในปี 2019
รายงานของรอยเตอร์ระบุว่า หลายโครงการกำลังดำเนินการ เพื่อลดการปล่อยก๊าซ จากการขุด bitcoin โดยใช้แหล่งพลังงานที่ยั่งยืนมากขึ้น นักลงทุนอาจเลือกที่จะใช้จ่ายเงินเพิ่มเติมสำหรับ bitcoin สีเขียว เพื่อเพิ่มมูลค่าได้อีกด้วย แต่ความพยายามเหล่านั้น ยังไม่ได้รับแรงกระตุ้น และในระหว่างนี้การลงทุนของ Tesla ได้ส่งราคา bitcoin พุ่งสูงทะลุหลังคา
เช่นเดียวกับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น Tesla ติดตามการปล่อยก๊าซคาร์บอน ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานและยานพาหนะของตน บริษัทเปิดตัวรายงานความยั่งยืนฉบับแรก ซึ่งเรียกว่ารายงานผลกระทบ (Impact Report) ในปี 2019 แม้ว่าจะยังไม่ได้เผยแพร่ของปี 2020 ก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่า Tesla มีแผนจะชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอน จากการซื้อ bitcoin อย่างไร
CEO Elon Musk เป็นแฟนตัวยงของภาษีคาร์บอน ดังนั้นจึงควรชำระภาษีในส่วนนี้ด้วยหรือไม่ ไม่ว่าในกรณีใด Tesla ควรรวมการขุด bitcoin ไว้ในรายงานความยั่งยืนในอนาคต เพื่อให้เจ้าของรถ สามารถทราบปริมาณคาร์บอนที่ถูกปล่อย ที่แท้จริงของรถยนต์ไฟฟ้าของตน หรืออย่างน้อยที่สุด ก็คือการจัดหาเงินทุนที่อยู่เบื้องหลัง
